หลักการทำสงครามนั้น.. การทำให้คู่แข่งพ่ายแพ้โดยไม่ต้องใช้กำลังทหาร ถือเป็นแผนการอันเลิศล้ำที่สุด
เปรียบเหมือนกับการทำ SEO การทำ SEO ที่ยอดเยี่ยมที่สุด คือการไม่ทำ SEO
ถ้าเว็บเรามีเนื้อหาที่ดีเยี่ยม สามารถทำให้คนสนใจและบอกต่อได้ ทำให้คนจำนวนมาเยี่ยมเว็บเรา และเต็มใจทำ link มาให้ ถือเป็นการทำ SEO ที่เยี่ยมที่สุด ตามที่ guru หลายคนว่าไว้ว่า Content is King
การเอาชนะได้สำเร็จโดยการยกทัพไปตีประเทศอธิราช คือแผนที่ดีรองลงมา แต่นั่นหมายถึงการทำทุ่มเทหา backlink จำนวนมากเพื่อเอาชนะคู่แข่งใน keyword ที่เราต้องการ หากต้องทำเช่นนี้ทุกครั้งใน keyword ที่ต้องการ เราก็จะต้องสูญเสียเวลาไปมากพอสมควร
ดังนั้น ร้อยรบร้อยชัย มิได้เลิศล้ำที่สุด การเอาชนะศัตรูได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อต่างหาก จึงนับว่าเลิศล้ำที่สุด
ซุนจื่อว่าไว้ว่า
“แผนอันเลิศล้ำที่สุดคือใช้กลอุบายเอาชนะข้าศึก
รองลงไปคือใช้การทูต เอาชนะข้าศึก
รองลงไปอีกคือใช้กำลังทหารเอาชนะข้าศึก
แผนอัน เลวที่สุดคือการตีชิงยึดเมือง”
การยึดเมืองถือเป็นแผนสุดท้ายที่เมื่อ ไม่มีแผนอื่นเหลือให้ใช้แล้วจึงค่อยกระทำ
การทำ seo เพื่อเพิ่มอันดับให้เว็บในบาง keyword ต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเห็นผล
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปีที่แล้วมานี่ อีก trend นึงที่มาแรงสำหรับการหา traffic เข้าเว็บ ก็คือการใช้ social network ต่าง ๆ มาโฆษณาเว็บของตัวเอง เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากของ social network นั้นและให้ผู้ใช้นั้น ช่วยกระจายข่าวบอกต่อเพื่อน ๆ ของเขาต่อไป ถือว่าเป็น viral marketing อย่างนึงที่ได้ผลดีกับ เว็บหรือ brand ที่มีความเข้มแข็งในบางจุด เช่นเนื้อหาที่น่าสนใจ (อาจไม่ใช่แค่เนื้อหา แต่อาจเป็นการร่วมสนุกเล่นเกมส์ชิงรางวัล เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ใหม่ที่เว็บยังเข้าไม่ถึง)
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญ SEO ที่ดีจะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้โดยไม่ต้องประจัญบาน
ยึดอันดับของคู่แข่งมาได้โดยไม่ต้องโหมปะทะตรงๆ
ทำให้ประเทศของศัตรูล่มสลายได้โดยไม่ต้องยกทัพไปตีเป็นเวลานาน
ดังนั้นต้องดูว่าเว็บเรามีจุดแข็งในส่วนนั้น ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการเอาชนะโดยไม่ต้องทุ่มเททำ SEO เพื่อเอาชนะคู่แข่งหรือไม่
ตามตำราพิชัยยุทธ์ของซุนจื่อ
“หากเรามีกองกำลังมากกว่าศัตรู 10 เท่า ให้ใช้วิธีโอบล้อมจาก 4 ด้านให้ศัตรูยอมสยบ
หากมีกำลังพลมากกว่า ศัตรู 5 เท่า ให้จู่โจมศัตรู
หากมีกำลังมากกว่าศัตรู 1 เท่า ให้คิดแผนแบ่งแยกกำลังของศัตรูออกแล้วจู่โจมไปทีละกอง
หากกองกำลัง ของฝ่ายเราพอๆ กับศัตรู ต้องวางแผนหาทางเอาชัยให้ดีๆ
หากกองกำลังของ เราน้อยกว่าศัตรู ต้องพยายามสลัดข้าศึกให้หลุด
หากปัจจัยทุกด้านของ เราล้วนด้อยกว่าศัตรู ให้พยายามหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะ”
ถ้าจำเป็นต้องทำ SEO เพื่อต่อสู้ เราควรประเมินความสามารถของเราและคู่แข่งว่าเราสามารถสู้ได้หรือไม่
ถ้าเรามีความพร้อมน้อยกว่าคู่แข่งในทุกด้าน ก็ไม่ควรที่จะแข่งใน keyword นั้นโดยตรง แต่หา niche keyword มาต่อสู้จะดีกว่า
แม่ทัพ คือผู้ช่วยของประเทศ หากช่วยเหลือได้รัดกุมรอบคอบ ประเทศก็จะเจริญแข็งแกร่ง หากช่วยเหลือไม่ดี ประเทศก็จะอ่อนแอ
ราชาจะสามารถทำร้ายกองทัพ ได้ด้วยเหตุผล 3 ประการ
1. ไม่เข้าใจว่ากองทัพจะบุกรุดหน้าไม่ได้แล้วกลับสั่งให้บุกรุดหน้า ไม่เข้าใจว่ากองทัพไม่อาจถอยได้แล้วกลับสั่งให้ถอย นี่เรียกว่าผูกมัดจำกัดความเคลื่อนไหวของกองทัพ
2. ไม่เข้าใจการบริหารภายในของกองทัพแล้วกลับยื่นมือเข้าแทรกแซง ทหารทั้งกองทัพจะงุนงงในกฎของทัพอันไม่เป็นหนึ่งเดียว
3. ไม่รู้กลศึกแต่กลับแทรกแซงการบังคับบัญชาของกองทัพ ทั้งแม่ทัพนายกองและพลทหารจะเกิดความอึดอัดไม่มั่นใจ
ในเมื่อกองทัพทั้งสับสนและอึดอัดมึนงงไม่มั่นใจ ก็จะเป็นสร้างสร้างโอกาสให้แคว้นอื่นฉกฉวยช่องว่างนี้เข้าจู่โจม นี่คือที่กล่าวกันว่าทำลายกองทัพของตัวเอง
ดังนั้น 5 ข้อต่อไปนี้จะทำให้ทำนายได้ว่าจะชนะหรือไม่
1. ทราบว่าเมื่อใดควรรบเมื่อใดไม่ควรรบ
2. สามารถพลิกแพลงใช้กลศึกตามจำนวนทหารที่มีได้เป็นอย่างดี
3. ทหารทั้งกองทัพสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันและสู้ถวายชีวิต
4. เตรียมตัวมาพร้อมเพื่อจะไปเผชิญหน้าอีกฝ่ายที่เตรียมตัวมาไม่พร้อม
5. แม่ทัพมีความสามารถในการนำทัพสูงเยี่ยมและราชาไม่แทรกแซงกิจการในกองทัพ
รู้เขารู้เรา ร้อยรบไร้พ่าย
ไม่รู้เขารู้เรา จะชนะครึ่งหนึ่ง
ไม่รู้เขาไม่รู้เรา จะแพ้ทุกศึก