ds WordThai Blog | เวิร์ดไทยบล็อก

คำฮิต 100 คำของไทย

June 26th, 2009 by admin

เอามาจาก truehits.net

เกมส์ | ฟังเพลง | เกม | game | ดูดวง | ดูทีวีย้อนหลัง | เกมส์แต่งตัว | เกมส์ปลูกผัก | เกมส์แข่งรถ | เพลง | เกมส์มันๆ | แชท | ฟังเพลงออนไลน์ | sanook | เกมส์เต้น | รถมือสอง | เกมส์ต่อสู้ | เพลงใหม่ | เกมส์จับคู่ | ไทยรัฐ | งานราชการ | ข่าว | ผลบอล | เพลงฮิต | ประวัติสุนทรภู่ | หางาน | ทำนายฝัน | ฟังวิทยุ | กลอนสุนทรภู่ | เกมส์ทำอาหาร | ดูทีวี | สุนทรภู่ | mthai | ดูดวงความรัก | สกินhi5 | หนังสือพิมพ์ | เกมส์รถแข่ง | kapook | หาเพื่อน | วันสุนทรภู่ | กยศ | หาเพื่อนคุยmsn | งาน | ดูทีวีออนไลน์ | dek-d | กพ | วิทยุออนไลน์ | teenee | สมัครงาน | postjung | ข่าวบันเทิง | one2car | เกมส์ออนไลน์ | กลอน | speedtest | www.sanook.com | test speed | การ์ตูน | เกมปลูกผัก | ฟังเพลงใหม่ | โทรศัพท์มือถือ | พระเครื่อง | แชทหมากฮอส | manager | ผู้จัดการ | เด็กดี | ตลาดรถ | ประมูล | qq | dictionary | ฝากรูป | กพ. | มือถือ | ฟุตบอล | คุยสด | เสื้อผ้าคนอ้วน | ภาพเคลื่อนไหว | เพลงลูกทุ่ง | ก.พ. | โพสจัง | ข่าวไทยรัฐ | ลิเวอร์พูล | sanook.com | กระปุก | โหลดเพลง | chat | ดวง | หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | sf | 95.5 | โค้ดเพลง | สนุก | audition | jobthai | longdo | liverpool | ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล | พจนานุกรม | zheza | รูปภาพ |

เอามาให้ดูกันแบบนี้ เห็นกันรึเปล่า

ใครเห็นแล้วบอกผมด้วย – -‘ จะทำอะไรกับมันดี

Posted in seo | 1 Comment »

คนไม่หล่อ

June 24th, 2009 by admin

index ก็ลด
pr ก็ลด สมพรปากจริง ๆ

ก็คนมันไม่หล่อ พี่ google เลยไม่สนใจ
คนทำ seo ส่วนใหญ่เขาหล่อกันทั้งนั้น

เรามันใครกัน จะไปสะเออะกับเขา T_T

เข้าเรื่อง pr7 ก็ได้มาแบบฟลุ๊ค ๆ รู้ตัว ลดเหลือ 6 ก็เลยไม่ค่อยเสียใจเท่าไหร่ และมั่นใจว่าเป็น 6 ที่แข็งไม่ลงไปกว่านี้แล้วล่ะ
แม้ว่าหน้าแรก pr ลด แต่หน้ารองก็ขึ้นมา 6 อีกสองหน้า แปลว่าการเสริมฐานให้แข็งไปได้ด้วยดี ไว้มีเวลาว่าง ๆ ค่อยไปทำเพิ่มอีก

Posted in seo | 1 Comment »

คนมีภาระ

June 23rd, 2009 by admin

เวลาทำงานหนัก ๆ เหนื่อย ๆ ท้อใจ มีคนพิเศษให้คิดถึงซักคนก็ดี
คนที่ทำให้เรารู้ว่า เรายอมเหนื่อยเพื่ออะไร
คนที่เห็นหน้าเมื่อไหร่ ก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง
คนที่ทำให้เรารู้ว่า ถ้าเราไม่ยอมเหนื่อย ในอนาคตเขาต้องเหนื่อยเหมือนเรา ไม่ก็หนักกว่าเราแน่ ๆ

คิดแบบนี้ จะได้หายเหนื่อย

ลุย

Posted in seo | 1 Comment »

สปก. 4-01 โกงชาติ

June 22nd, 2009 by admin

คน รุ่นหลัง จำนวนมากเกิดไม่ทันรู้ ดูไม่ทันเห็น ความชั่วร้ายของชายชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งมีอำนาจในมือซ้าย ถือกฎหมายในมือขวา

เมื่อครั้งนั่ง เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สุเทพ เทือกสุบรรณ สร้างผลงานโบว์ดำอันลือลั่นสั่นสะเทือนแผ่นดิน ด้วยการใช้อำนาจ และช่องโหว่ทางกฎหมาย แจกที่ดิน สปก.4-01 ให้กับ ทศพร เทพบุตร สามีของ อัญชลี เทพบุตร ขณะเป็นเลขานุการของตนเอง

ไม่ เพียงแต่ ทศพร เทพบุตร คนเดียวที่ได้รับที่ดินผืนงามของเกาะภูเก็ต ไปกว่า 90 ไร่ ยังมี “นายหัว” อีกหลายคนของเกาะภูเก็ต ที่เป็นนายทุนของพรรคประชาธิปัตย์ และสนิทสนมชิดเชื้อ เอื้อเฟื้อสุเทพ เทือกสุบรรณ และ พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเอกสารสิทธิสปก.4-01 เหมือนกับทศพร เทพบุตร ไปด้วย

ทั้ง ทศพร เทพบุตร และคนเหล่านี้ ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเอกสารสิทธิที่ดินสปก.4-01 ซึ่งเป็นที่ดินของหลวง ที่ดินของรัฐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะยกให้แก่เกษตรกรคนยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่ ทศพร และ”นายหัว” หลายคน ไม่ใช่เกษตรกร เป็นคหบดี เป็นเศรษฐีใหญ่ของเกาะภูเก็ต ไม่เช่นนั้นคงเป็นนายทุนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้

คน เหล่านี้ ไม่มีสิทธิ แต่ได้รับสิทธิ ได้รับที่ดินหลวงไปเป็นสมบัติของตัวเองกันคนละหลายสิบไร่ เพราะการใช้อำนาจในมือซ้าย และใช้กฎหมายในมือขวา ตามสไตล์ สุเทพ เทือกสุบรรณ

เหตุการณ์อัปยศ โกงที่ดินหลวง แย่งที่ดินคนจน ไปแจกจ่ายแก่พวกพ้อง เกิดขึ้นเมื่อปี 2538 ขณะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล ชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโฆษกรัฐบาล

ทั้ง ชวน สุเทพ และ อภิสิทธิ์ ชี้แจงแสดงเหตุผล เถียงกับสื่อมวลชน และประชาชนทั้งประเทศ ที่เห็นว่าการแจกเอกสารสิทธิที่ดินสปก.4-01 แก่เศรษฐี คหบดี เป็นเรื่องผิด แต่ ทั้ง 3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ เถียงคอเป็นเอ็น เห็นว่าเป็นเรื่องถูก

เถียงกันจน ชวน หลีกภัย กลายเป็นคนโง่ ไม่รู้ว่าเกษตรกรแปลว่าอะไร ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความคำว่า เกษตรกร

เถียงกันจน สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกต้อนจนมุม ถูกถลุงจนต้องโยนผ้ายอมแพ้ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ไป

เถียง กันจน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับฉายาจากนักข่าว ว่า โฆษกเทวดา เพราะดูถูกดูแคลนนักข่าว สื่อมวลชน ประชาชน ที่จี้ถามเรื่องนี้ ว่าอธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

เถียงกัน จนพรรคประชาธิปัตย์ ต้องล่มสลาย หนีตายคาสภาฯ หนีการลงมติไม่ไว้วางใจในสภา ด้วยการยุบสภา เพื่อเอาตัวรอด ไม่กล้ายืนสู้หน้าประชาชน ไม่กล้ายืนตัวตรงรับฟังคำพิพากษาของสภาผู้แทนราษฎร

เถียง กันจนถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังยืนยันว่าทำถูกต้องทุกประการ ทั้งๆ ศาลฎีกาพิพากษาแล้วว่าทำผิด และสั่งให้ ทศพร เทพบุตร ออกจากที่ดินหลวงที่ยึดครองเป็นสมบัติส่วนตัวนานถึง 12 ปี

พรรค ประชาธิปัตย์ ยังคงยืนกรานว่าทำถูก และต้องการใช้คนภูเก็ตพิสูจน์ความถูกต้องในเรื่องนี้ของตนเอง ด้วยการ ส่ง ทศพร เทพบุตร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ในยุคสมัยที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

พฤติกรรม ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ชวน หลีกภัย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ทศพร เทพบุตรเมื่อ ปี 2538 คือ พฤติการณ์ของนักการเมืองที่สร้างภาพลักษณ์ตนเป็นคนดี แต่แท้จริงกลับเป็นปีศาจคาบคัมภีร์ ถืออำนาจเป็นศาสตรา ใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ทำร้ายบ้านเมือง โกงที่ดินรัฐ คอรัปชั่นแผ่นดินหลวง ยักยอกทรัพย์สินของชาติ ไปให้แก่พวกพ้อง โดยไม่สนใจความถูกต้องอยู่ตรงไหน

การ คอรัปชั่นเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง และความไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ คือ ข้อสรุปพฤติกรรมการบริหารงานของพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณี สปก.4-01 ที่เป็นกรณีศึกษา กรณีตัวอย่าง ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ยังเป็นที่น่าประหลาดเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล้าอวดอ้างเป็นพรรคการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เป็นพรรคการเมืองที่มีจริยธรรมในการบริหารบ้านเมือง

จึง ไม่น่าแปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะหยิบยกกรณี สปก.4-01 ของพรรคประชาธิปัตย์ มาสอบถาม และทดสอบมาตรฐาน และจริยธรรมของคตส. ว่าเคยเห็นความผิดปกติ หรือความไม่สุจริตในเรื่องสปก.4-01 ที่ ศาลฎีกาพิพากษาว่าเป็นการกระทำผิดแล้ว บ้างหรือไม่

สำหรับ ท่านทั้งหลาย ที่เกิดไม่ทันรู้ ดูไม่ทันเห็น หรือเคยรู้เคยเห็นแต่ จำไม่ได้แล้วว่า รายละเอียดเป็นอย่างไร ก็จะได้เห็นได้รู้กันเสียที และอีกครั้งหนึ่ง ว่า ทำไมเมื่อพูดถึงสปก.4-01 ผู้อาวุโสหลายจึงคนต้องนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยอาการขนลุกขนพอง สยองเกล้า และทำไม สปก.4-01 จึงกลายเป็นเครื่องหมายตราบาปติดตัว สุเทพ เทือกสุบรรณ และ พรรคประชาธิปัตย์ จนแกะไม่ออก แยกไม่ได้

เน วิน ชิดชอบ คือนักการเมืองหนุ่มจากบุรีรัมย์ ในวันนั้น เป็นนักการเมืองที่สะสมข้อมูลทุกเรื่องไว้มากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย เป็นนักการเมืองที่ใช้ข้อมูลด้วยความพิถีพิถัน ใช้ข้อมูลเป็นอาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คือคนที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สรุปความชั่วร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีการแจกที่ดินสปก.4-01 ให้แก่ เศรษฐีภูเก็ต เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

หลังการอภิปรายของเนวิน ชิดชอบ ในวันนั้น พรรคพลังธรรม โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทันที

ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่กล้านำคณะรัฐบาล เข้ารับฟังการพิพากษาจากสภาผู้แทนราษฎร และต้องหนีเอาตัวรอดด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร ทันที

ทั้งๆ ที่ สภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้กระทำความผิด แต่เป็นผู้เปิดเผยการกระทำความผิดของรัฐบาล ต่างหาก

กรณี สปก.4-01 เป็นความผิดของรัฐบาล แต่ผู้ถูกลงโทษกลับเป็นสภาผู้แทนราษฎร เพราะการใช้อำนาจของ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ซึ่งเป็นการยุบสภาฯ หนีการลงมติไม่ไว้วางใจ โดยแท้ เป็นการยุบสภาฯ เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพียงพรรคเดียว

ใน ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ ได้รับผลตอบแทนคือ ถูกสร้างภาพว่าเกี่ยวข้องกับซื้อเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นที่มาของฉายา ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ ที่ติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ศาลฎีกาพิพากษาแล้วว่า เนวิน ชิดชอบ ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อเสียงครั้งนั้น และได้ลงโทษจำคุกผู้กระทำความผิด ไปแล้ว

แต่ด้วยความรอบจัดและความ ชำนาญทางการใช้สื่อเป็นอาวุธ และมีเครือข่ายสื่อเป็นพวกพ้องของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เนวิน ชิดชอบ ต้องได้รับเคราะห์กรรมอย่างสาหัสแต่เพียงลำพัง โดยที่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ในกรณีหนึ่ง ศาลฎีกาพิพากษาว่า เนวิน ชิดชอบ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด แต่พรรคประชาธิปัตย์ กลับเห็นว่าผิด

ใน กรณีหนึ่ง ศาลฎีกาพิพากษาว่า ทศพร เทพบุตร ไม่ใช่ผู้มีสิทธิได้รับสปก.4-01 และต้องคืนที่ดินให้หลวง แต่พรรคประชาธิปัตย์ กลับบอกว่าทศพร ไม่ผิด สุเทพ ไม่ผิด ที่ผิดคือ กฎหมายที่เขียนไว้ไม่รองรับถึงทศพร

น่า ประหลาดที่ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่มีนักกฎหมายอยู่เต็มพรรค และเป็นพรรคการเมืองที่ครั้งหนึ่งเมื่อเป็นรัฐบาล ชวน หลีกภัย ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เคยประกาศว่าจะทำให้ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายอย่างเสมอภาคกัน

แต่ สองกรณีนี้เห็นได้ชัดเจนว่า นักกฎหมายที่มีอยู่เต็มพรรคประชาธิปัตย์เป็นนักกฎหมายชนิดใด และคำพูดของชวน หลีกภัย เชื่อถือได้หรือไม่

จะมีสักครั้งหรือไม่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ จะพูดความจริงกับประชาชน

ฟัง เรื่องสปก.4-01 ของพรรคประชาธิปัตย์ จากปากของ เนวิน ชิดชอบ ดีกว่า แล้วท่านจะได้รู้ และเข้าใจว่าทำไม นายกฯทักษิณ ต้องนำกรณีนี้มาเตือนสติ คตส. และประณามเป็นนักฎหมายสองมาตรฐาน

ฟังเรื่องสปก.4-01 จบ แล้วคุณจะรู้จักพรรคประชาธิปัตย์ ดีขื้นกว่าที่คุณเคยรู้จัก

แล้วคุณจะรู้ว่าปีศาจคาบคัมภีร์ ไม่ใช่คำเปรียบเทียบ หรืออุปมาอุปไมย แต่มีตัวตนจริงๆ ชื่อว่า..

“ประชาธิปัตย์”

http://talk.mthai.com/topic/41048

Posted in seo | 3 Comments »

ปรส. ประชาธิปัตย์ขายชาติ

June 22nd, 2009 by admin

ดีเอสไอฟันธง คดี ปรส.ผิดจริง คนขายชาติตัวจริง ประชาธิปปัตย์

นาย ไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับอัยการสำนักคดีพิเศษ และที่ปรึกษาจากกระทรวงการคลัง

สรุปสำนวนคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ใช้เวลาประชุมนานประมาณ 2 ชั่วโมง ร่วมกันแถลงว่า

ในการสอบสวนมุ่งถึงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

จาก การนำทรัพย์สินของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท และการดำเนินการของ ปรส. ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ

แต่ ขั้นตอนดำเนินการของ ปรส. กลับไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย เพื่อแยกหนี้ดีไปให้กับธนาคารรัตนสิน จำกัด (มหาชน) นำไปบริหาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ

รายงานระบุว่า คดี ปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี

ประกอบด้วย

คดี ที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท

คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท

คดีที่ 3 – 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 – 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท

คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท

ในคดีที่ 1 มีการสอบปากคำพยานบุคคล ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 106 ปาก แยกประเด็นการสอบสวนออกเป็นประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้หลักฐานถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันการเงิน และกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงการจงใจหลีกเลี่ยงภาษี

หลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น

ประกอบด้วย

1. ปรส. ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. โดยมิชอบ

2. คณะกรรมการ ปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส

3. ข้อกำหนดของ ปรส. ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย

4. การโอนสิทธิ ของผู้ชนะการประมูลไม่ชอบ ขัดต่อ พ.ร.ก.ปรส.

5. ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการ ปรส. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

6. คณะกรรมการ ปรส. และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปรส. ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขายทรัพย์สิน

7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจาก ปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล

8. มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย

9. สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ

10. ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปรส.บางคนขาดคุณสมบัติ เนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อนกับสถาบันการเงินอีกแห่ง

การ ขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา

หลังจากนี้ กรรมการ ปรส. ที่รู้เห็นเกี่ยวข้องโดยตรงในการขายและนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมและสนับสนุน ให้เจ้าหน้าที่กระทำผิดอาญาจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ราย จะถูกดำเนินคดี

ฐาน เป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกระทำโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ในคดีภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 -200,000 บาท ถ้าคดีนี้ฟ้องได้ ก็มีโอกาสที่ประเทศจะได้เงินกลับคืนมา สำหรับคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ

ความ เสียหายที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ที่ผ่านมา เคยตั้งนายยุวรัตน์ กมลเวชช เป็นกรรมการตรวจสอบ และได้ตั้งประเด็นในการตรวจสอบตรงกับการสอบสวนของดีเอสไอ การสอบสวนพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาก ดีเอสไอ สั่งฟ้องคดีที่ 1 เรียบร้อย ก็จะเป็นบรรทัดฐานข้อกฎหมายที่จะมาใช้ฟ้องกรณีบริษัทอื่น ๆ ต่อไป

Posted in seo | Comments Off on ปรส. ประชาธิปัตย์ขายชาติ

« Previous Entries Next Entries »